กรรมฐาน เมื่อภรรยาเป็นมะเร็ง และเมื่อเกิดการผิดพลาดเกิดขึ้น
 เนื้อความ :

ผมไม่ได้ใช้อินเตอรเนต มาเป็นอาทิตย์ เพราะต้องเอาเวลาไปเยี่ยมภรรยาที่โรงพยาบาล  และ ณ.วันนี้ภรรยาผมก็ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล  เอาละผมจะเล่าเรื่องทั้งหมดนะครับ
        เมื่อประมาณ 2 เดือนมาแล้ว เนื่องจากภรรยามีประจำเดือนมากกว่าผิดปกติ ติดต่อมาเป็นเวลา 2-3 เดือนมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์มีประจำเดือนมากกว่าปกติ ก็ได้เกิดขึ้นกับภรรยามาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อสองปีที่แล้ว และได้ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาล หมอแนะนำให้ทำการขูดมดลูก แต่ไม่มีการเอาเนื้อเยื่อไปทำการตรวจสอบ หลังจากทำการขูดมดลูกแล้วประจำเดือนของภรรยาก็มาตามปกติ  แต่ครั้งหลังนี้มีอาการหนักกว่าเมื่อสองปีที่แล้ว จึงทำการขูดมดลูกและเอาเนื้อเยื่อไปตรวจ ผลจากการตรวจเนื้อเยื่อ ปรากฏว่าเป็นมะเร็งในมดลูก และในช่วงนั้นสุขภาพร่างกายของภรรยาก็ไม่ค่อยดี จึงสรุปว่า อาจเป็นมะเร็งในระยะที่ 1 แต่ขั้นรุนแรง และต้องรีบผ่าตัดมดลูกทิ้งโดยเร็ว ภรรยาเมื่อทราบว่า เป็นมะเร็งในมดลูกก็ไม่ได้ตกใจมากมาย เพราะพี่สาวของภรรยาก็ได้เป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวและได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่พี่สาวของภรรยาไม่เคยฝึกและศึกษากรรมฐานเลย 
       เมื่อภรรยาทราบว่าเป็นมะเร็ง ภรรยาก็เริ่มตั้งสติ และปฏิบัติกรรมฐานมากขึ้น แต่ความกลัวตายนั้นย่อมมีอยู่ จึงใช้ทั้งสมถะและวิปัสสนา เพื่อ รักษาใจหนึ่ง และรักษากายหนึ่ง   คนที่เคยฝึกกรรมฐานอย่างมากมายมาแล้ว เมื่อกลับมาปฏิบัติอย่างมากภายหลังก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย  และภรรยาก็ได้ทำการติดต่อกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ก็คือเหล่าเทพเทวดาต่างๆ  หลายๆ ท่าน (ตลอดเวลาเกือบ 20 ปี สัมภเวสี เปรต เทพ เทวดา พรหม ที่ติดต่อนั้นมีมากมายเสียเหลือเกิน ทั้งที่แสดงตนมาสัมผัส กับที่ไม่แสดงตนมาสัมผัสรับส่วนบุญส่วนกุศล หรือมาฟังการสนทนาธรรม มากกว่า แสนๆ ท่าน แต่ก็ไม่สนใจนาม ความเป็นมาเป็นไปของท่านเหล่านั้นเลย) ที่ติดต่อก็ยืนยันว่า ถึงไม่ผ่าตัดมดลูกออกก็ไม่เป็นอะไร เพราะเนื้อร้ายนั้นจะหายไปด้วยกำลังสติสมาธิและการวางใจ ที่ปฏิบัติมากขึ้น และสามารถควบคุมได้  เมื่อเวลาผ่านมาใกล้การผ่าตัด ภรรยาก็เกิดการกลัวตายขึ้นมาอีก ก็ทำการติดต่อกับเทพเทวดาที่สนิทอีก ท่านเหล่านั้นยืนยันว่า ถึงจะผ่าตัดมดลูกหรือไม่ผ่ามดลูก ก็ไม่เป็นอะไร เพราะควบคุมได้ด้วยสติและสมาธิ  เพราะความกลัวตายนั้นภรรยาก็ทำการติดต่อกับหลายท่านทุกๆ ก็ยืนยันคล้ายกัน และท่านสุดท้ายเป็นท่านที่ยิ่งใหญ่ เพราะท่านมาเพื่อการสนทนาธรรม เมื่อสนทนาธรรมเสร็จท่านก็ยื่นยันว่า ถึงอย่างไรๆ ก็ไม่ตายด้วยการผ่าตัดและโรคมะเร็งในครั้งนี้   ยังมีอายุยืนยาวไปอีกหลายปี  ยังทำประโยชน์ให้กับเหล่าเปรตและเทพเบื้องล่างได้อีกนาน   
                 สิ่งที่เล่า เรื่องการสื่อสัมผัสกับ เปรต เทพเทวดา มันก็เหมือนนิยาย และเรื่องที่เกินความจริงของมนุษย์มากๆ  นะครับ  แต่ก็ได้เกิดขึ้นมาแล้วกับผมและภรรยาเกือบ 20 ปีแล้วครับ จึงกลายเป็นเรื่องธรรมดา และสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ผมและครอบครัวได้สมบัติหรือผลประโยชน์ในโลกมนุษย์นี้เลย ทรัพย์สมบัติและผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์มีได้ เพราะการแสวงหาความรู้ศึกษาทางโลก การขยันมั่นเพียร การเก็บออม และอดทน แทบทั้งสิ้น ดังนั้นท่านทั้งหลายที่เชื่อว่าเทพเทวดามีจริง และมีกล่าวในพระไตรปิฎกก็หาได้เห็นผิดไปไม่(ตามที่ผมเข้าใจ)  และการเคารพต่อเทพเทวดาหรือพรหมนั้นก็เป็นการดี แต่จะเห็นผิดเมื่อเข้าใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดลบันดาลจาก เทพหรือพรหม หรืออ้อมวอนต่อเทพหรือพรหมเพื่อให้ได้ดังสิ่งที่ปรารถนา โดยไม่สร้างจากกำลังกายและใจตนเอง อย่างถูกต้องตามขั้นตอน    ผมก็เคยถามเทพผู้ใหญ่(พระอริยะ) หลายท่าน ว่าทำไม่เทพต่างๆ จึงมาฝังการสนทนาธรรมของผมกับผู้รู้ทั้งหลายที่เป็นเทพหรือพรหมละครับ แล้วทำไม่ท่านจึงไม่ไปสอนธรรมมะโดยตรงกับเทพเหล่านั้นเลยละครับ  ท่านตอบทำนองว่า กรรม ฐานะ บารมี ของสัตว์ทั้งหลายไม่เหมือนกัน อาตมาก็จะแนะนำได้เฉพาะในกลุ่มที่มีกรรมร่วมมากับอาตมาเท่านั้น แต่โยมและภรรยา ทำให้เหล่าเทพเทวดาต่างภพต่างภูมิทุกชั้นสนใจและฟังการสนทนาธรรม กันได้ ทั้งหมดโดยสะดวก   มาถึงช่วงนี้ผมก็คิดว่า ผมเป็นพิธีกร หรือดีเจ นี้เอง ที่เสนอแนวคิดของตนเอง และของผู้รับเชิญมา ในการสนทนากระจ่ายออกไปทั่ว ทางวิทยุและทีวี เออ! ไม่ใช่สิ ได้หลายภพภูมิ โดยที่ไม่ต้องเห็นตัวผู้ฟังทั้งหลาย ผมเล่านอกเรื่องมามากแล้วก็เข้าเรื่องต่อนะครับ
     เมื่อภรรยาเข้าโรงพยาบาลทำการผ่าตัดมดลูกทิ้ง ก็ดูเหมือนเรื่องปกติเหมือนกับผู้อื่นที่ทำการผ่าตัดมดลูก ซึ่งปกติแล้วหลังการผ่าตัด อาการก็จะดีขี้น 4 หรือ 5 วันก็สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้  แต่อาการภรรยาไม่ได้เป็นไปตามปกติ วันแรกก็ยังคงมีกำลังใจดีอยู่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว แต่ยังทานอาหารไม่ค่อยได้ วันที่ 2 ก็ยังทานอาหารไม่ค่อยได้ วันที่ 3 อาการทรุดลง วันที่ 4 มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ต้องฉีดยาแก้ปวด กินอะไรไม่ได้ เพราะไม่รู้สึกอยากกิน และเมื่อฝืนกินก็จุกเสียดท้องและอ๊วกออกมา กำลังใจของภรรยาที่มีอยู่ เริ่มหมดลง เทพที่อยู่ใกล้และสนิทก็บอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ ส่วนตัวผมเองก็คิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดตอนผ่าตัดแน่นอน ทั้งตั้งแต่วันที่ 4 แล้ว  วันที่ 6 อาการทรุด หนักขึ้น ใจผมเริ่มขุ่นเคือง คิดถึงการเปลี่ยนโรงพยาบาล  คืนวันที่ 6 อาการภรรยาทรุดอย่างมากปวดท้องอย่างมาก จนต้องรีบเข้าห้องตรวจอย่างด่วน  ภรรยาได้เล่าให้ผมฟังว่า กลางคืนวันที่ 6 ที่เขาปวดท้องทรมานมาก กำลังสมาธิก็เอาไม่อยู่  จนภรรยาต้องวางสังขารจะตายก็ปล่อยวาง วางใจให้สงบเมื่อใจสงบก็ไม่ไปยึดที่ความเจ็บปวด ในจิตในใจก็จะเกิดมโนภาพอกุศลกรรมที่ผู้อื่นทำกับภรรยาและที่ภรรยาทำกับสัตว์ต่างๆ  ภรรยาก็ให้อโหสิกรรมกับผู้ที่ทำกรรมกับภรรยา  และขออโหสิกรรมที่ภรรยาได้ทำกับสัตว์ต่างๆ   จนใจภรรยาสงบนิ่งและโล่งยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อหมอทำการอุนตราชาว ในช่วงท้องที่ทำการผ่าตัดก็พบม้ำในช่วงมาก ไม่ทราบสาเหตุเกิดจากอะไร 6 โมงเช้า ของวันที่ 8 ธันวาคม 46  หมอก็ให้ภรรยาโทรมาหาผมที่บ้าน รีบไปโรงพยาบาลด่วน ขับรถจากบ้านไปโรงพยาบาล ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง ในขณะนั้นภรรยาเขาวางใจตายแล้ว ไม่มีอะไรติดพันในใจแล้ว สงบนิ่งอยู่ ก็บังเกิดมโนภาพเหมือนจริง เห็นผู้หญิงนอนนิ่งอยู่แต่ผิวสีดำคร่ำ และหลังจากนั้นผิวของผู้หญิงคนนั้นก็ร้าวแล้วค่อยแตกเป็นปุยผงจนหมดสิ้น แล้วเกิดเป็นความรู้ขึ้นว่าเสมือนตนเองนั้นได้ตายแล้วเกิดใหม่ เมื่อผมไปถึง ภรรยาก็บอกผมว่า หมอตรวจพบน้ำในช่วงท้องมาก แล้วจับมือผมแล้วพูดกับผมว่า ฝากดูแลแม่(แม่ภรรยา)ด้วย ผมก็ยิ้มและหัวเราะ แล้วผมก็พูดว่า  ยังไม่ตายหลอก ยังมีชีวิตอยู่หลายปี และอยู่ในโรงพยาบาล มีหมอถึงอย่างนี้โอกาสตายอยาก  ภรรยาก็หน้าตาชื้นขึ้น แล้วหมอก็เรียกผมไปเล่าอาการของภรรยา ว่ามีน้ำในช่วงท้องมาก ไม่รู้ว่ามาจากไหน จำเป็นต้องทำการผ่าตัดใหม่อีกครั้ง ผมจึงถามว่าลำไส้ทะลุหรือเปล่า หมอบอกว่าคงไม่น่าจะใช่ เพราะถ้าลำใส้ทะลุผู้ป่วยต้องมีไข้สูงมากกว่านี้ หมอต้องสอบสวนหาสาเหตุก่อน หลังจากนั้นผมก็กลับที่เตียงภรรยา  และผมคิดว่าหมอหลายๆ ฝ่ายหลายท่าน ต้องมานั่งปรึกษากัน จึงตัดสิ้นใจทำการตรวจ ระบบทางเดินปัสสาวะ ตั้งแต่ไต โดยฉีดสารเคมีและถ่ายเอ็กซเรย์  แล้วพบว่าทอระหว่างไตไปยังกระเพาะปัสสาวะฉีกขาด น้ำจึงไหลไปยังช่วงท้อง แล้วทำการเอ็กชเรย์ใหญ่อีกครั้งเพื่อหาตำแหน่งที่นอน จึงจะทำการผ่าตัด กว่าจะได้ผ่าตัดก็เป็นเวลา 15.00-16.00 น. แล้วผมก็ได้ทราบหมอว่า น้ำที่อยู่ในช่วงท้องเริ่มเป็นหนองขุ่นๆ แล้ว
        วันรุ่งวันต่อมา เมื่อรู้ว่าภรรยาฟื้นแล้วก็ใจผมชื่นไปเปราะหนึ่ง และมีสายต่อจากร่างกายภรรยาเพิ่มขึ้น คือ สายน้ำเกลือ สายยาเข้าทางน้ำเกลือ สายท่อปัสสาวะ สายดูดน้ำและเลือดออกทางช่วงท้องที่เว้นช่องไว้นิดหนึ่งตรงแผลผ่าตัด และการผ่าตัดครั้งหลังเป็นการเปิดแผลใหม่ ไม่ได้ฝ่าตัดช้ำตรงแผลเดิม  
      มันก็น่าเครียดอยู่เหมือนกัน แต่ใจของผมและภรรยาก็ต้องการรู้ผลของชิ้นเนื้อมดลูกว่า ยังมีมะเร็งอยู่ไหม? ต้องทำการฉายแสงต่อ หรือทำให้ยา ทำคลีโมหรือเปล่า ? แล้วหมอบอกว่ามดลูกที่ผ่าออกมาแล้วนั้น ไม่สามารถมองเห็นมะเร็งได้ด้วยตาเปล่า จึงต้องทำการตรวจส่องกล้องอย่างระเอียดอีกครั้ง   
    ผลออกมาแล้ว ณ. วันนี้ 12/12/46 ไม่มีเนื้อมะเร็งอยู่เลยในมดลูก เป็นอันว่าเทพเทวดาท่านก็บอกได้ถูกของท่าน  แต่เป็นเพราะกรรมตัดรอนของภรรยาจึงทำให้เฉียดตายอาจเนื่องมากจากการไม่สร้างสติและความรอบคอบให้สมบูรณ์ของผู้อื่น
    ณ. ขณะนี้ภรรยาผมก็ยังอยู่โรงพยาบาล และที่น่ากลัวในช่วงนี้ คือ โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื่อเพราะมีหนองในช่วงท้อง ที่มีผลต่อ ปอด ตับ หัวใจ ม้าม ฯลฯ เดียว 15.00 น ผมก็จะต้องไปเยี่ยมภรรยาอีกแล้วครับ และอาจจะไม่ใช้เนตไปอีก วันหรือสามวัน
      สิ่งทั้งหลายไม่แน่นอน กรรมต่างๆ ที่ทำไว้ทั้งหลายก็ย่อมส่งผลแต่จะกำหนดกดเกณฑ์ว่า กรรมอันใดส่งก่อนกรรมอันใดส่งหลังนั้นหาได้เสมอไปไม่ เพราะมีกรรมตัดรอนได้ตลอดทุกเวลา เนื่องด้วยการขาดสติของตนเอง หรือของผู้อื่น  ดังนั้นท่านทั้งหลายจงหมั่นสร้างสติ และบุญกุศลเทอด

 จากคุณ : Vicha [ 12 ธ.ค. 2546 / 14:19:46 น. ]
     [ IP Address : 202.133.168.36 ]

 ความคิดเห็นที่ 1 : (bomba)

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยคุ้มครองภรรยาคุณ Vicha ให้ปลอดภัย และ อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยครับ

 จากคุณ : bomba [ 12 ธ.ค. 2546 / 14:51:01 น. ]
     [ IP Address : 203.144.168.162 ]


 ความคิดเห็นที่ 2 : (ศุภชัย)

เพื่อนชายอายุ  42 แข็งแรงอดีตทหารเรือ แต่ลาออกจากทหารเรือตอนอายุ 26
อายุ 40 กว่าท้องอืดแบบคนลงพุง ไม่เป็นไร 41เริ่ม ปวดท้องบ่อย ๆไปหาหมอ
หมอบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ ให้ยามาทาน พอไม่หายไปเช็คใหญ่  42 รู้ว่าเป็นมะเร็งทรุดเลย เข้า ๆออก รพ.เจอกันครั้งสุดท้าย หน้าดำ-แก่อย่างกับคนอายุ 60
เพราะยา ให้คีโม ไป 1 เข็ม บอกอีกเข็มไม่ไหวแล้ว จากการที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง จนรักษาทางมะเร็ง ไม่เกิน  12 เดือน กลับบ้านเก่า แต่เค้าเป็นคนดื่มเหล้า-ดูดบุหรี่จัดมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น


 จากคุณ : ศุภชัย [ 12 ธ.ค. 2546 / 15:07:23 น. ]
     [ IP Address : 210.203.187.236 ]


 ความคิดเห็นที่ 3 : (สมบูรณ์ ต.)


             เป็นกำลังใจให้คุณ Vicha และภรรยาด้วยครับ  ขอให้มีสติทันทุกประการครับ  ขอให้อาการดีขึ้นและกลับมามีโอกาสปฏิบัติธรรมต่อไปครับ

 จากคุณ : สมบูรณ์ ต. [ 12 ธ.ค. 2546 / 15:07:54 น. ]
     [ IP Address : 210.86.202.212 ]


 ความคิดเห็นที่ 4 : (._.)

      เรื่องของวิบากกรรมเก่า คงเป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลคาดเดา หรือ เอาชนะได้ยาก แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ก็ยังต้องพบกับบุพกรรมที่ท่านได้เคยทรงกระทำไว้
         สติ..จะเป็นเครื่องเตือนให้เห็นว่าภาวะเกิด แก่ เจ็บ ตาย และเกิดอีกครั้งหนึ่งนั้นเป็นของปกติที่ทุกคนต้องพบเจอ  สิ่งที่เรากลัวบางครั้งไม่ใช่ความตาย แต่เป็นความพลัดพรากต่างหาก    สติจะเป็นเครื่องเตือนว่าเราจะผจญกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเราได้อย่างไร และอย่างดีที่สุด โดยไม่ตีโพยตีพายเกินไปกว่าเหตุ
         สมาธิ จะเป็นเครื่องมือดึงจิตส่วนมโน ไม่ให้ไหวไปกับเวทนาที่เกิดกับกาย  
         บุญกุศลที่ทำในปัจจุบัน ถ้าทำดีมากก็จะเป็นเครื่องทำให้วิบากกรรมเบา หรือเป็นทรัพย์ในอนาคต
        อ่านเรื่องของคุณ Vicha แล้ว ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับภรรยาคุณวิชา หายจากพยาธิที่เกิดกับกายในไม่ช้า 

 จากคุณ : ._. [ 12 ธ.ค. 2546 / 15:10:39 น. ]
     [ IP Address : 203.151.96.208 ]


 ความคิดเห็นที่ 5 : (เก่ง)

เป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของพี่Vichaครับ

 จากคุณ : เก่ง [ 12 ธ.ค. 2546 / 15:41:34 น. ]
     [ IP Address : 203.113.33.7 ]


 ความคิดเห็นที่ 6 : (p&p)

ขอเป็นกำลังใจให้ภรรยาของคุณVicha ดีขึ้นและหายโดยเร็วด้วยนะค่ะ

 จากคุณ : p&p [ 12 ธ.ค. 2546 / 15:55:27 น. ]
     [ IP Address : 202.28.38.32 ]


 ความคิดเห็นที่ 7 : (กอบ)

ขอให้ภรรยาคุณ Vicha หายป่วยและปลอดภัยโดยเร็วครับ

 จากคุณ : กอบ [ 12 ธ.ค. 2546 / 15:58:25 น. ]
     [ IP Address : 202.57.168.52 ]


 ความคิดเห็นที่ 8 : (ปฏิบัติธรรม)

   ธรรมสวัสดีกับคุณVicha  ก็ขอให้คุณทำสติให้ตั้งมั่นและปล่อยวางกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเราก็ทราบกันดีว่าการที่มนุษย์เรามีกรรมมาตัดรอนชีวิตหรือกรรมที่ทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น  มันเกิดจากในอดีตที่เราทำการล่วงปาณาติปาตขึ้น  เมื่อวิบากส่งผลก็จะทำให้เราเจ็บป่วย  อย่างภรรยาของคุณผมพิจารณาแล้วน่าจะเป็นวิบากกรรมที่ใหญ่พอสมควร  แต่ผมมีความดีใจมากที่ภรรยาของคุณรู้จักทำให้ถูกหลักวิชชาคือทำใจให้ใส มีสติ ตั้งมั่นในสมาธิและเจริญวิปัสนา  ตอนนี้ผมอยากให้คุณทำมหาทานบารมีหรือสังฆทานให้มากๆแล้วนำบุญนั้นไปให้ภรรยาร่วมอนุโมทนาหรือให้ภรรยาของคุณอธิษฐานปัจจัยที่จะทำแล้วคุณก็นำปัจจัยเหล่านั้นไปทำสังฆทาน  บุญนี้จะช่วยให้วิบากส่งผลได้เบาบางลงมากและเมื่อรวมกับบุญที่ภรรยาของคุณได้เจริญสมาธิและสติปัฏฐาน   ผมเชื่อว่าวิบากนี้อาจหยุดส่งผลเลยทีเดียวนะครับ เพราะเมื่อใจภรรยาของคุณใสแล้ว  บุญที่ภรรยาของคุณได้ประกอบขึ้นในอดีตและปัจจุบันจะส่งผลจนทำให้วิบากส่งผลได้น้อยลงหรือหยุดส่งผล  ผมก็ขอให้คุณและภรรยาทำจิตให้อยู่ในบุญกุศล 
      บุญใดที่คุณและภรรยาของคุณได้ทำดีแล้ว ขอให้คุณได้หมั่นนึกถึงบุญนั้นๆให้มากและขอให้บุญนั้นส่งผลก่อน  ส่งผลศักดิ์สิทธิ์  มีฤทธิ์  มีเดช  มีอานุภาพ  ให้คุณและภรรยามีความสุขกาย สุขใจและเป็นสาวกที่ดีต่อพระรัตนตรัยสืบต่อไป.
    ธรรมสวัสดี  สาธุ.

 จากคุณ : ปฏิบัติธรรม [ 12 ธ.ค. 2546 / 16:05:18 น. ]
     [ IP Address : 192.168.1.48 ]


 ความคิดเห็นที่ 9 : (จุ๊)

อ่านเรื่องของภรรยาคุณวิชา แล้วนึกย้อนมาดูตนเอง พบว่าผมก็ไม่สามารถทำใจเข้มแข็ง รับวิบากกรรมแบบนี้อย่างสงบได้ ยังต้องสะสมความเพียรให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

ขอบคุณต่ออนุสติที่กรุณามอบให้ครับ ขอกุศลจากธรรมทานนี้ ช่วยเป็นกำลังให้จิตของคุณวิชาและภรรยา หลุดพ้นจากการครอบงำของกิเลส ตัณหา อุปาทาน ได้ดังตั้งใจด้วยเถิด

อนุโมทนาในกุศลจิตครับ

 จากคุณ : จุ๊ [ 12 ธ.ค. 2546 / 16:07:26 น. ]
     [ IP Address : 203.144.163.170 ]


 ความคิดเห็นที่ 10 : (mayrin)

ขอให้ภรรยาของพี่วิชา หายป่วยโดยเร็วค่ะ

 จากคุณ : mayrin [ 12 ธ.ค. 2546 / 16:29:51 น. ]
     [ IP Address : 203.155.234.134 ]


 ความคิดเห็นที่ 11 : (ศิรพร)

            ขอกุศลที่ได้ปฏิบัติมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ของข้าพเจ้าจงช่วยให้ภรรยาคุณวิชาหลุดพ้นจากวิบากกรรมในครั้งนี้เถิด  ค่ะ

 จากคุณ : ศิรพร [ 12 ธ.ค. 2546 / 16:33:52 น. ]
     [ IP Address : 203.113.57.102 ]


 ความคิดเห็นที่ 12 : (pat)

ขอเอาใจช่วยค่ะ ให้คุณวิชาและภรรยาผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดีนะคะ

 จากคุณ : pat [ 12 ธ.ค. 2546 / 17:26:47 น. ]
     [ IP Address : 202.183.176.130 ]


 ความคิดเห็นที่ 13 : (ตชบ)

ขอให้หายไวๆ

 จากคุณ : ตชบ [ 12 ธ.ค. 2546 / 18:39:59 น. ]
     [ IP Address : 202.133.168.250 ]


 ความคิดเห็นที่ 14 : (listener)

ขอเอาใจช่วยครับ ขอให้บุญกุศลที่ พี่ วิชา และภรรยา สะสมมา ช่วยให้ปลอดภัยนะครับ

 จากคุณ : listener [ 12 ธ.ค. 2546 / 18:41:05 น. ]
     [ IP Address : 203.147.2.203 ]


 ความคิดเห็นที่ 15 : (ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม)

ได้ทราบถึงอาการเจ็บป่วยของภรรยาคุณวิชาตามที่ท่านนำมาเล่า

จึงขอให้กำลังใจคุณวิชาและภรรยา ขอให้ท่านทั้งสองผ่านพ้นทุกข์ทางกายและใจ ในครั้งนี้โดยเร็ว

 จากคุณ : ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม [ 12 ธ.ค. 2546 / 19:32:26 น. ]
     [ IP Address : 203.155.163.61 ]


 ความคิดเห็นที่ 16 : (aratana)

อายุ บวร

 จากคุณ : aratana [ 12 ธ.ค. 2546 / 19:48:54 น. ]
     [ IP Address : 203.113.61.197 ]


 ความคิดเห็นที่ 17 : (ตี๋)

ทำสังฆทานให้ภรรยาก็ดีนะคับ จะได้มีบุญมาหนุนเนื่องให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกคับ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มนุษย์มีกรรมเป็นที่มาและมีกรรมเป็นที่ไป ไม่ว่ากรรมนั้นจะดี หรือชั่วก็ตาม การพลัดพรากจากคนที่เรารักย่อมมีสักวันในอนาคตข้างหน้า ย่อมมีสำหรับทุกคน ควรปล่อยวางบ้างก็ดีนะคับ 

 จากคุณ : ตี๋ [ 12 ธ.ค. 2546 / 20:51:57 น. ]
     [ IP Address : 202.129.25.45 ]


 ความคิดเห็นที่ 18 : (คนกวน)

ขอให้หายดีนะครับ  บุญใดที่เรามีขอบุญจงสำเร็จแก่ท่านด้วยเทอญ

 จากคุณ : คนกวน [ 12 ธ.ค. 2546 / 20:53:37 น. ]
     [ IP Address : 210.203.181.248 ]


 ความคิดเห็นที่ 19 : (ตันหยง)

_/|\_ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยดลบันดาลและคุ้มครองให้ภรรยาคุณวิชา
หายป่วยในครั้งนี้ด้วยค่ะ 

 จากคุณ : ตันหยง [ 12 ธ.ค. 2546 / 21:27:49 น. ]
     [ IP Address : 128.252.41.41 ]


 ความคิดเห็นที่ 20 : (ปล่อยรู้)

ขอพุทธธรรมโอสถ  ช่วยลดความทุกข์วิบากกรรมใดๆให้บรรเทาบางบาง
จนสูญสิ้นสลายหายไปโดยไวด้วยเทอญ....

ขอให้ผ่านทุกข์สัจจ์ในครั้งนี้ไปได้โดยสะดวกรวดเร็วเทอญ...

 จากคุณ : ปล่อยรู้ [ 12 ธ.ค. 2546 / 22:04:51 น. ]
     [ IP Address : 203.107.203.216 ]


 ความคิดเห็นที่ 21 : (ติสโร)

ขอเป็นกำลังใจให้ภรรยาของคุณวิชา ด้วยครับ
ธรรมย่อมรักษา ผู้ประพฤติธรรมครับ

 จากคุณ : ติสโร [ 12 ธ.ค. 2546 / 22:06:27 น. ]
     [ IP Address : 203.113.34.9 ]


 ความคิดเห็นที่ 22 : (Mr.A)

ขอกุศลที่ได้ปฏิบัติมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ของข้าพเจ้าจงช่วยให้ภรรยาคุณวิชาหลุดพ้นจากวิบากกรรมในครั้งนี้เถิด 

 จากคุณ : Mr.A [ 12 ธ.ค. 2546 / 22:16:21 น. ]
     [ IP Address : 203.113.37.13 ]


 ความคิดเห็นที่ 23 : (กล้วยป่า)

ขอส่งใจช่วยภรรยาคุณวิชา และตัวคุณวิชาเองให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ค่ะ..อนุโมทนาคุณวิชาที่แม่จะยุ่งๆอยู่..แต่ก็ยังมีแก่ใจมาเตือนสติพวกเราอีก...ขอพลังพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพได้โปรดปกปักรักษาภรรยาของคุณวิชาให้รอดพ้นจากโรคร้ายทั้งหลายด้วยเทอญ

ขออนุโมทนาในธรรมที่คุณวิชาคิดเผื่อแผ่เพื่อนๆชาวลานธรรมอย่างสม่ำเสมอค่ะ

 จากคุณ : กล้วยป่า [ 12 ธ.ค. 2546 / 22:24:27 น. ]
     [ IP Address : 158.108.12.45 ]


 ความคิดเห็นที่ 24 : (กลางชล)

ขอเอาใจช่วยและขอให้กุศลที่คุณวิชาและภรรยาสั่งสมมาอย่างสม่ำเสมอ
นำเนื่องให้พ้นจากวิบากกรรมนี้โดยไวนะคะ

 จากคุณ : กลางชล [ 12 ธ.ค. 2546 / 22:59:34 น. ]
     [ IP Address : 203.118.102.20 ]


 ความคิดเห็นที่ 25 : (สำเภาน้อย)

เป็นกำลังใจให้ครับ
ทั้งสองท่านยังเป็นบุคคลที่สังคมต้องการ
หายเร็วๆ นะครับ

 จากคุณ : สำเภาน้อย [ 13 ธ.ค. 2546 / 00:20:02 น. ]
     [ IP Address : 203.155.110.172 ]


 ความคิดเห็นที่ 26 : (พิท)

ขอเป็นกำลังใจให้กับภรรยาของพี่ Vichaครับ...

 จากคุณ : พิท [ 13 ธ.ค. 2546 / 00:42:12 น. ]
     [ IP Address : 81.78.117.7 ]


 ความคิดเห็นที่ 27 : (เบจญ์ )

เอาใจช่วยครับ

 จากคุณ : เบจญ์ [ 13 ธ.ค. 2546 / 00:54:46 น. ]
     [ IP Address : 202.22.34.2 ]


 ความคิดเห็นที่ 28 : (พบบุญ)

  ขอให้พระรัตนตรัยคุ้มครองภรรยาของคุณวิชาค่ะ

 จากคุณ : พบบุญ [ 13 ธ.ค. 2546 / 08:12:03 น. ]
     [ IP Address : 10.60.2.187 ]


 ความคิดเห็นที่ 29 : (กำลังฟุ้ง)

สาธุครับ...

 จากคุณ : กำลังฟุ้ง [ 13 ธ.ค. 2546 / 08:28:49 น. ]
     [ IP Address : 203.118.80.82 ]


 ความคิดเห็นที่ 30 : (สี่ปอ )

_/|\_ ขอบพระคุณที่นำมาเล่าเป็นเรื่องเตือนสติค่ะ
เชื่อว่าภรรยาของคุณ Vicha และคุณ Vicha จะสามารถ
รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ด้วยสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์

 จากคุณ : สี่ปอ [ 13 ธ.ค. 2546 / 09:16:50 น. ]
     [ IP Address : 202.44.32.9 ]


 ความคิดเห็นที่ 31 : (apichaya)

ขอให้ครอบครัวของคุณ้นวิกฤติครั้งนี้ได้โดยเร็วนะคะ ขอบคุณมากที่นำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง ทำให้รู้สึกกระตือรือร้นที่จะฝึกสติมากขึ้นค่ะ.

 จากคุณ : apichaya [ 13 ธ.ค. 2546 / 10:23:49 น. ]
     [ IP Address : 203.113.36.14 ]


 ความคิดเห็นที่ 32 : (ภาวิตา)

         ขออนุโมทนากับการปฏิบัติธรรมของคุณวิชาและภรรยาค่ะ
ขอบพระคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังให้เห็นคุณค่าของการปฏิบัติธรรม
   อ่านแล้วระลึกถึงคำพูดของกัลยาณมิตรท่านหนึ่งขึ้นมา     เธอว่าพี่โชคดี
ที่ศึกษาและปฏิบัติธรรมมาแต่เนิ่นๆ   เมื่อเจ็บป่วยจึงได้ธรรมเป็นโอสถ
เรื่องราวของคุณวิชาช่วยยืนยันคำพูดของเธออีกครั้งหนึ่ง  ....ธรรมะรักษา...
เชื่อว่าคุณวิชาและภรรยาจะผ่านวันคืนแห่งความเจ็บป่วยไปได้ด้วยดีด้วย
ธรรมที่มีอยู่       ขออนุโมทนาค่ะ
  

 จากคุณ : ภาวิตา [ 13 ธ.ค. 2546 / 10:37:00 น. ]
     [ IP Address : 172.29.3.238 ]


 ความคิดเห็นที่ 33 : (โป)

อนุโมทนาบุญกับ....................ธรรมทานด้วยครับ

 จากคุณ : โป [ 13 ธ.ค. 2546 / 14:30:14 น. ]
     [ IP Address : 169.210.27.233 ]


 ความคิดเห็นที่ 34 : (ธัมกร)

้้ัีเอาใจช่วยอีกแรงนะครับ  โชคดีที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่โชคร้ายก็คือ เกิดโรคหมอทำ เพราะการวินิจฉัยผิดพลาดของแพทย์  อย่างนี้ไม่รู้ว่าหมอต้องรับผิดชอบหรือเปล่า

 จากคุณ : ธัมกร [ 13 ธ.ค. 2546 / 16:13:33 น. ]
     [ IP Address : 203.113.67.8 ]


 ความคิดเห็นที่ 35 : (คนไกลวัด)

ขอให้ผลบุญกุศลที่คุณวิชาและภรรยาได้ทำมาแล้วตลอดในระยะเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา  ช่วยเสริมส่งให้พ้นจากวิบากกรรมในครั้งนี้ด้วยค่ะ

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมานี้   ดิฉันได้รับ e-mail จากลูกสาวของเพื่อนรักร่วมรุ่นว่า  คุณแม่เสียแล้วด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.  ขณะนี้คุณพ่อและลูก ๆ ยังทำใจไม่ได้...  เพื่อนดิฉันตายด้วยมะเร็งที่ตับและเลยไปถึงปอดสุดความสามารถของหมอจะช่วยได้   ดิฉันโทรคุยกับเพื่อนในช่วงอาทิตย์สุดท้าย  จึงได้สำนึกว่าผู้ปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว  ยอมรับความตายได้อย่างสงบ  ไม่แสดงถึงความทุกข์ร้อนหรือกังวลแต่อย่างใด  เราไม่ได้พูดถึงโรคภัยไข้เจ็บของเขาเลย   เราคุยถึงความสุขสมัยเรียนด้วยกัน  พูดถึงโครงการงานกุศลต่าง ๆ ที่กำลังทำอยู่  แล้วเราคุยถึงคำสอนของหลวงพ่อชา   หลังจากที่คุยกับเพื่อนแล้ว  ดิฉันมีความรู้สึกว่าเพื่อนเรากำลังเตรียมตัวเดินทางไป"ต่างถิ่น"  มากกว่าเพื่อนที่กำลังจะตายจากกัน  ดิฉันจึงได้ตระหนักถึงผลการปฏิบัติธรรม เจริญภาวนาที่ช่วยให้เรายอมรับสถานะการณ์ในยามยากที่สุดในชีวิตได้อย่างกล้าหาญ

 จากคุณ : คนไกลวัด [ 14 ธ.ค. 2546 / 02:33:46 น. ]
     [ IP Address : 12.75.84.128 ]


 ความคิดเห็นที่ 36 : (ปุจฉา)

เป็นกำลังใจ ขอให้ผ่านพ้นวิกฤติของชีวิตไปได้ด้วยดีค่ะ

 จากคุณ : ปุจฉา [ 15 ธ.ค. 2546 / 10:02:31 น. ]
     [ IP Address : 203.144.157.10 ]


 ความคิดเห็นที่ 37 : (ว่างจากเวปอื่น)

เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก

 จากคุณ : ว่างจากเวปอื่น [ 15 ธ.ค. 2546 / 11:06:58 น. ]
     [ IP Address : 203.107.203.227 ]


 ความคิดเห็นที่ 38 : (ศิริพร)

        แวะมาให้กำลังใจคุณVichaและภรรยา  ขออาศัยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย  จงช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ที่ปฏิบัติให้ปลอดภัยในที่สุดด้วยเถิด ขอกรมดีของผู้เป็นกัลยาณมิตรที่ส่งไปให้ทุกท่านจงน้อมนำให้ภรรยาของคุณจงหลุดพ้นจากวิบาก
กรรมทั้งหมดทั้งปวงที่กำลังได้รับอยู่ในขณะนี้ ขอให้มีสุขภาพกายและจิตที่ดีขึ้นค่ะ

 จากคุณ : ศิริพร [ 15 ธ.ค. 2546 / 11:07:05 น. ]
     [ IP Address : 203.113.57.105 ]


 ความคิดเห็นที่ 39 : (Vicha)

ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่ส่งกำลังใจและอวยพรให้ภรรยาและผมผ่านพ้นวิบากกรรมนี้อย่างปลอดภัย
  วันนี้ผมมีโอกาศเข้าเน็ต อาการโดยส่วนรวมของภรรยาผมตอนนี้ดีขึ้นตามลำดับ และคงจะได้กลับบ้านภายในสองหรือสามวันนี้ แต่เมื่อเช้าวันนี้ทำให้ผมต้องรีบวิ่งไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้ามืด แทนที่จะได้ไปทำงาน และเรื่องที่เล่าก็เป็นที่เกียวกับสมาธิและสติเป็นหลัก เรื่องมีดังนี้
    ภรรยาผมเขาได้รับยารักษาอาการอักเสบและฆ่าเชื่อโรคทางเส้นเลือด เป็นเวลา 7 วัน เขามีอาการขากระตุก และเวลากลางคืนจะแกร็งและกัดฟันเล็กน้อย ไม่มากนัก ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อคืนประมาณตี 3 พยาบาลก็ให้ยาตามปกติ แต่ปล่อยยาอย่างรวดเร็วกว่าปกติมาก (อาการนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นก็ได้นะครับ) หลังจากนั้นก็นอนหลับไปชั่วโมงกว่า ตื่นขึ้นมาลำคอแกร็งลิ้นแข็งอย่างมาก เมื่อเอานิ้วมือดันลิ้นดู ลิ้นจะดันติดอยู่กับเพดานปากแน่น พอตี 5 กว่าก็โทรมาหาผมที่บ้าน ให้ไปหาที่โรงพยายาบด่วน และผมก็แนะให้ภรรยาเรียกพยาบาลให้ดูอาการ หลังจากนั้นภรรยาก็รีบนั้งเข้าสมาธิทันที ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลมาไม่เคยแสดงอาการให้ใครหรือผู้ใดทราบว่า ตนเองกำลังทำสมาธิอยู่ แต่ครั้งนี้มันสุดวิสัย เพราะมีอาการแกร็งมาก ขณะที่กำลังเข้าสมาธิอยู่ พยาบาลก็เข้ามาทำการตรวจความดันและการเต้นของหัวใจ โดยที่ภรรยากำลังนั้งสมาธิอยู่เพียงยื่นมือให้พยาบาลตรวจ ความดันก็เป็นปกติแต่หัวใจนั้นเต็นช้ามาก พยาบาลจับมืดตรวจการต้นของหัวใจเป็นเวลานาน จนพยาบาลแปลกใจ แล้วบอกว่าหัวใจเต้นช้ามาก หลังจากนั้นพยาบาลก็จากไป ภรรยาก็เข้าสมาธิโดยไม่สนใจใครแล้ว เข้าสมาธิเงียบหายจนไม่ปรากฏลมหายใจ ไปเป็นเวลาเกือบชั่วโมง เมื่อออกจากสมาธิก็ได้ยินเสียงคนอยู่ใก้ลๆ เมื่อลืมตาก็เห็นหมอกับพยาบาลกำลังยืนอยู่และหมอก็เข้ามาทำการตรวจ คราวนี้หมอได้เอาหูฟังมาฟังการเต้นของหัวใจ ทั้งตรวจที่ชีพจร และก็ใช้หูฟัง หมอตรวจซ้ำอยู่พักหนึ่ง แล้วบอกว่า หัวใจเต้นช้ามาก ๆ แล้วหมอถามภรรยาว่าเหนื่อยใหม?
ภรรยาบอกว่าเหนื่อย(เพราะเหตุจากการแกร็ง)     
หมอถามว่า ตกใจใหม?
ภรรยาตอบว่า ไม่ตกใจ
หมอถามว่า ตอนนี้อาการเกร็งที่คอและลิ้นดีขึ้นใหม?
ภรรยาตอบว่า อาการดีขึ้นแล้ว
*** ที่เล่ามาชี้ให้เห็นว่า การเข้าสมาธิลึกๆ ทำให้การเต้นของหัวใจนั้นช้ามากๆ และปรับภาวะการเกร็งของร่างกายได้
*** ภรรยาผมคงปลอดภัยแล้วครับ ยังเว้นจะเกิดกรณีที่คาดคิดไม่ถึงแทรกซ้อนเท่านั้น
ขอให้ทุกๆ ท่านเจริญในธรรมขึ้นๆ ไปนะครับ

 จากคุณ : Vicha [ 15 ธ.ค. 2546 / 14:22:02 น. ]
     [ IP Address : 203.118.85.184 ]


 ความคิดเห็นที่ 40 : (bomba)

ดีใจด้วยครับ คุณ Vicha

 จากคุณ : bomba [ 15 ธ.ค. 2546 / 14:37:13 น. ]
     [ IP Address : 203.144.168.162 ]


 ความคิดเห็นที่ 41 : (สุวรรณ)

ขอให้บุญกุศลที่ คุณ Vicha และภรรยา ทำมาเป็นบุญส่งให้ ภรรยาคุณ Vicha หายโดยเร็ววัน เป็นกำลังใจครับ

 จากคุณ : สุวรรณ [ 15 ธ.ค. 2546 / 14:49:59 น. ]
     [ IP Address : 203.144.198.66 ]


 ความคิดเห็นที่ 42 : (Vicha)

ผมพึ่งได้ทราบข่าวเมื่อตอนนี้เองครับ จากผลของการตรวจเลือดที่ภรรยาผมเกิดอาการเกร็ง นั้นเกิดจากการขาดเกลือแร่ในรางกายครับ และคงจะได้กลับไปพักฟื้นที่บ้านในวันพรุ้งนี้แล้วครับ
ขอบคุณทุกท่านมากครับที่ให้กำลังใจ

 จากคุณ : Vicha [ 15 ธ.ค. 2546 / 15:14:20 น. ]
     [ IP Address : 203.118.85.184 ]


 ความคิดเห็นที่ 43 : (ตามตะวัน)

ผลบุญกุศลใด อานิสงส์ของการทำกุศลใดที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้วในอดีต ในปัจจุบัน  และที่จะทำต่อไปในอนาคต  ขออุทิศให้ภรรยาของคุณ Vicha และจงเป็นพลวปัจจัยให้ภรรยาของคุณ Vicha มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยน้อยลง  และมีความปรกติสุขตามอัตตภาพ  และพบกับ "จิต" ที่สงบด้วยธรรมะด้วย
ตามตะวัน-อโณทัย  เขตต์บรรพต

 จากคุณ : ตามตะวัน [ 15 ธ.ค. 2546 / 16:49:08 น. ]
     [ IP Address : 203.152.59.98 ]


 ความคิดเห็นที่ 44 : (ศิริพร)

            ขอแสดงความยินดีกับคุณ Vichaและภรรยาด้วยนะคะ ที่พ้นขีดอันตรายและจะกลับไปที่บ้านได้แล้ว   ขออาศัยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงปกป้องคุ้มครองคนที่ปฏิบัติธรรมดีแล้วเช่นคุณและภรรยาให้ปลอดภัยด้วยเถิด

 จากคุณ : ศิริพร [ 15 ธ.ค. 2546 / 18:38:27 น. ]
     [ IP Address : 203.113.57.103 ]


 ความคิดเห็นที่ 45 : (คนไกลวัด)

*** ที่เล่ามาชี้ให้เห็นว่า การเข้าสมาธิลึกๆ ทำให้การเต้นของหัวใจนั้นช้ามากๆ และปรับภาวะการเกร็งของร่างกายได้ ***
ขอบคุณสำหรับข้อมูลชิ้นนี้ค่ะ  ยืนยันให้เห็นว่าทำไมผู้ที่ทำสมาธิได้ลึก ๆ  ถึงสิ้นใจได้อย่างสงบ  ร่างกายไม่เกร็งไม่กระตุก

ยินดีด้วยที่ภรรยาคุณวิชาพ้นเขตอันตรายแล้วนะคะ

 จากคุณ : คนไกลวัด [ 16 ธ.ค. 2546 / 03:56:22 น. ]
     [ IP Address : 66.192.118.210 ]


 ความคิดเห็นที่ 46 : (ปางบุญ)

ขอร่วมแสดงความเห็นใจ ให้กำลังใจ และทุกสิ่งที่ใจต้องการ แด่คุณวิชา

ปางบุญ เข้ามายืนยันสิ่งที่คุณวิชาเล่า ว่าเป็นความจริง
พี่ปางเคยอยู่ในสภาพเฉียดตายอย่างนี้มาแล้ว ด้วยน้ำมือหมอ
ค่ะ ต้องประทานกราบขอโทษท่านที่เป็นหมอ ทั้งหลาย ที่ขออนุญาตยืนยันเป็นส่วนตัวว่า
หลายครั้งที่เรามอบชีวิตและเชื่อหมอมากเกินไป เราจึงต้องตายและเฉียดตาย อย่างที่เป็นอยู่
พระระดับพ่อแม่ ครูบาอาจารย์หลายท่าน โดยเฉพาะ รูปสุดท้ายที่ท่านอยู่ลำปาง...
โดยความจริง ท่านไม่ได้เจ็บป่วยอะไรมากมายนัก แต่ด้วยเหตุอันใด ไม่ทราบ พอส่งโรงพยาบาลไม่นาน..ท่านก็ละสังขารไป

ปางเองความจริง ไม่อยากเล่าให้เกิดเสียงต่อต้านจากท่านที่เป็นหมอ เพราะทุกท่าน ก็ได้พยายามทำ ในสิ่งที่ดี ที่สุด....จนสุดความสามารถ
แต่คำว่าสุดความสามารถของแต่ละท่านนั้น...เท่าใด ถูกต้อง เพียงใด

ทำอย่างไรพวกเราจึงจะเชื่อในกรรม..และพระพุทธองค์เท่านั้น
เชื่ออย่างที่เทพ ท่านบอกว่า ไม่รักษาก็หาย..แต่ เราอยู่ในโรคปัจจุบันมากเกินไป อยู่ในสังคมโลก เกินไป และมีเงิน มากเกินไป

ค่ะ ถ้าบังเอิญคุณวิชา มีเงินน้อยกว่านี้ ไม่มีกำลังพอที่จะผ่าตัด สิ่งดี ๆ คงเกิดขึ้น ไปแล้ว
เราควรมอบชีวิตให้กับกรรม และคำสอนของพระพุทธองค์น่าจะดีกว่า

แต่นั่นแหละ ทุกอย่าง เป็นกรรม ที่ท่านวางสคริปต์ไว้แล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

โรคร้ายที่ภรรยาคุณวิชาเป็น คือโรคและความเจ็บปวดที่ปางบุญเคยได้สัมผัสมาแล้ว อาการเฉียดตายคราวนั้น ทำให้ปางได้รู้จัก กับพลังของลมหายใจ และนำทางให้ปางบุญเข้าสู่ ธรรมะในเวลานี้

โชคดีที่คราวนั้น ปางจน ปางจึงรอดชีวิต (เพราะได้ขอ ไม่รับการรักษา ย้ายออกจากโรงพยาบาล หอบความตายติดตัวออกมาด้วย) ถ้าปางพอจะมีเงินเสียให้โรงพยาบาล วันละ เกินหมื่นไปเรื่อย ๆ ป่านนี้ปางคงตายไปแล้ว

แม่ปางเอง ก็เสียชีวิตก่อนเวลา ด้วยวิธีการรักษา ที่หมอท่านตัดสินใจ
ลูกน้องของปาง เมื่อปีใหม่ปีที่แล้ว..ขาดใจตายหลังจาก ให้เลือดผิด..เพียงไม่กี่ชั่วโมง

คำพูดที่ตามมา มักจะเป็นว่า ให้ฟ้องเอา..โธ่...

สำหรับปางนั้น สั่งลูก สั่งหลาน สั่งคนใกล้ชิด รวมทั้งพระที่คุ้มครองกันอยู่ ถ้าโยมป่วย ช่วยตัวเองไม่ได้ อย่าส่งโรงพยาบาลเด็ดขาด ขออนุญาตตายอย่างสงบ ในป่า ในถ้ำ ในกุฏี ในศาลา หรือแม้แต่ในรถ..ห้ามส่ง อย่าส่ง

ปางเองไม่น่าจะเคยทำกรรม ยิงนกตกปลา ต้องผูกปากปลาห้อยระโยงระยาง จึงต้องมารับกรรม ถูกสอดท่อดูดเสมหะบ้าง ท่อช่วยหายใจบ้าง จะเอ่ยปากสั่งเสียใครก็ไม่ได้

แต่นั่นแหละ ถ้าเคยทำกรรมมา ก็คงหนีไม่พ้น

ถ้าคุณวิชากลับมาเข้าเนต อยากเรียนเพิ่มเติมอย่างนี้ว่า

เมื่อภรรยาคุณ เข้าสมาธิได้แนบแน่นอย่างนั้นแล้ว หายป่วยคราวนี้ น่าจะรีบ พลิกผัน การภาวนา ให้ตรงเข้าสู่ นิพพานโดยตรง ละสมาธิ แบบสื่อสารกับท่าน ท่าน ทั้งหลายไว้เสีย (วันหลังปางจะเล่าขยายความให้ฟัง)

ให้มุ่งเข็มการปฏิบัติ ตรงเข้าสู่นิพพานเลย เพราะเมื่อจิตหลุดเข้าสู่กระแสนิพพานแล้ว แม้เพียงระดับต้น ๆ กายจะแตกดับไป ไม่เหลือกายไว้เสพเวทนา
ส่วนจิตก็เช่นกัน จะไม่เสพเวทนา แม้เจ็บปวด ความเจ็บปวดที่ผ่านเข้ามา จะลื่นผ่าน หรือถึงจะไม่ลื่นหลุดเลย ก็จะไม่ปรุงเข้าสู่จิตให้เรา ทุกข์ทน ให้เราเจ็ปปวด

ค่ะ บอกเลยต่อถึงทุกท่าน ให้ตระหนักในความตาย และความเจ็บป่วย

ทุกท่านที่จับตาอ่านตรงนี้ จะได้รับความตาย และความเจ็บป่วยตามกรรม เท่าเทียมกันหมด ไม่มีใคร หนีรอดไปได้เลย

พระพุทธองค์ สอนวิธีให้เราพ้นทุกข์นี้แล้ว...
เริ่มจาก ทาน
ศีล
ภาวนา

ใยเราปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป

ขออำนาจบุญที่ปางบุญสะสมมา
จงแผ่ออกสู่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ให้ละ ให้วาง และให้อโหสิกรรม แก่กัน ยังความสุขสงบ แก่ผู้คน ตามควร

สาธุ

 จากคุณ : ปางบุญ [ 16 ธ.ค. 2546 / 09:47:28 น. ]
     [ IP Address : 203.146.169.45 ]


 ความคิดเห็นที่ 47 : (ปางบุญ)

อ่านที่ตัวเองเขียนข้างบน แล้ว แปลก ๆ ประโยคต้น ๆ ที่ไม่เว้นบรรทัด
อาจทำให้การอ่าน และความเข้าใจผิดพลาด

ปางบุญ เข้ามายืนยันสิ่งที่คุณวิชาเล่า ว่าเป็นความจริง
พี่ปางเคยอยู่ในสภาพเฉียดตายอย่างนี้มาแล้ว ด้วยน้ำมือหมอ
ค่ะ ต้องประทานกราบขอโทษท่านที่เป็นหมอ ทั้งหลาย ที่ขออนุญาตยืนยันเป็นส่วนตัวว่า


ค่ะ ..ต้องเว้นบรรทัด ลงมาอย่างนี้

ปางบุญ เข้ามายืนยันสิ่งที่คุณวิชาเล่า ว่าเป็นความจริง (จบประโยคไปเลย ไม่เกี่ยวข้องกับ บรรทัดข้างล่าง คือมายืนยัน ในเทพ ในสมาธิ ในพลังลึกลับที่ภรรยาคุณวิชา สัมผัส ว่าเป็นจริง )

แล้วจึงเริ่มประโยคใหม่ ...เรื่องใหม่ว่า
พี่ปางเคยอยู่ในสภาพเฉียดตายอย่างนี้มาแล้ว ด้วยน้ำมือหมอ
ค่ะ ต้องประทานกราบขอโทษท่านที่เป็นหมอ ทั้งหลาย ที่ขออนุญาตยืนยันเป็นส่วนตัวว่า

ค่ะ ภาษาไทย อ่านให้เอาเรื่องก็ได้ อ่านให้เข้าใจผิด ก็ได้เช่นกัน
สาธุ

 จากคุณ : ปางบุญ [ 16 ธ.ค. 2546 / 09:56:05 น. ]
     [ IP Address : 203.146.169.45 ]


 ความคิดเห็นที่ 48 : (สาวิกา)

โมทนา..สาธุกับสิ่งที่พี่ปางฝากไว้กับทุกท่านในที่นี้ค่ะ

 จากคุณ : สาวิกา [ 16 ธ.ค. 2546 / 10:41:28 น. ]
     [ IP Address : 210.203.178.157 ]


 ความคิดเห็นที่ 49 : (ศิริพร)

         มิเสียแรงที่รอคอย...พี่ปางบุญมาครั้งใด  ไม่เคยผิดหวัง...ได้รับความรู้
ที่เป็นจริงเสมอ   วันนี้ที่รอคอยอีกเช่นกัน...
      จากการได้เห็นสภาพของญาติก่อนเสียชีวิตในห้อง ไอ.ซี.ยู  มีสภาพที่เหมือนกับที่พี่ปางบุญได้เล่ามานั้น  ศิริพรก็สั่งเสีย...จะพูดเช่นนี้คงไม่ผิดนะคะ  คือบอกลูกๆกับสามีไว้เลยว่า หากเจ็บไข้ได้ป่วยถึงขั้นไม่สึกตัว  ช่วยเหลือต้วเองไม่ได้ขอให้ปล่อยไปตามธรรมชาติอย่างสงบ  อย่าให้อาหารทางสายเด็ดขาด  อย่าปั๊มหัวใจ
อันเป็นการทรมานสังขารเหล่านั้นเลย    หากทนเห็นสภาพไม่ได้ให้นำไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ให้ดูแลตามปกติ   ไม่ต้องสวมเครื่องพันธนาการเหล่านั้นหรอก เพราะแม่พร้อมแล้วทุกเมื่อที่จะละสังขาร  ไม่ต้องทำการยื้อยุดเพราะตายเมื่อไร...ก็คือตายเหมือนกัน  จะห่างกันแค่ 5 วัน 7 วันด้วยความทรมานในสังขารอย่าได้ทำเลย...       จะรอติดตามธรรมะที่พี่ปางบุญได้แนะนำเป็นธรรมทานนะคะ
ขออนุโมทนาค่ะ ศิริพร 

 จากคุณ : ศิริพร [ 16 ธ.ค. 2546 / 10:48:40 น. ]
     [ IP Address : 203.113.57.105 ]


 ความคิดเห็นที่ 50 : (neo)

ขอให้หายครับ

 จากคุณ : neo [ 16 ธ.ค. 2546 / 11:12:40 น. ]
     [ IP Address : 203.107.215.104 ]


 ความคิดเห็นที่ 51 : (ิbomba)

สาธุ ครับคุณปางบุญ ได้ความสว่างขึ้นอีกเยอะ

 จากคุณ : ิbomba [ 16 ธ.ค. 2546 / 11:59:51 น. ]
     [ IP Address : 203.144.168.162 ]


 ความคิดเห็นที่ 52 : (Vicha)

ทุกอย่างที่ดำเนินผ่านมา ล้วนแต่เป็นไปตามกรรม และปัจจุบันนั้นก็บังเกิดจากกรรมเก่าผลักดันให้ปรากฏ  แต่ ณ. ปัจจุบันนั้นและย่อมก่อกรรมใหม่บังเกิดขึ้น หรือจะละกิเลส ดับกิเลส ไม่สร้างกรรมใหม่
*** ขอให้สังเกต ตรงที่ว่า ละกิเลส ดับกิเลส ไม่สร้างกรรมใหม่ ต่างกับประโยคที่ว่าต้องหยุดสร้างกรรมใหม่ หรือต้องไม่สร้างกรรม นะครับ ซึ่งต้องหยุดต้องไม่สร้างกรรมใหม่ อาจก่อให้เกิดวิภาวตัณหาไปก็ได้

*** สิ่งแวดล้อมที่ปรากฏกับเรา ไม่ว่า ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และใจ ย่อมบังเกิดจากกรรมเก่าทั้งนั้น แต่ขณะที่บังเกิดขึ้นมาเมื่อขาดสติ กิเลสก็ย่อมบังเกิดขึ้น สร้างกรรมใหม่ด้วย กาย หรือ วาจา หรือใจ
    เราไม่สามารถหยุดกรรมที่ส่งผลได้ เช่นเดียวกันเราไม่สามารถหยุดสิ่งแวดล้อมที่ปรากฏกับเรา ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจได้ แต่เราสามารถฝึกสร้างสติ สมาธิปัญญา เพื่อลด เพื่อละ เพื่อวาง เพื่อดับกิเลส  ที่จะบังเกิดขึ้นหรือที่กำลังเกิดขึ้น กับสิ่งที่กระทบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้
   นี้ละจุดหรือขณะที่จะไปนิพพาน   จะมีขณะหรือจุดที่จะไปนิพพาน นอกจากนี้อีกหรือ ?
   ทางไปสูนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน 4 มรรคมีองค์ 8 ฯลฯ
   แต่ขณะที่จะไปนิพพาน ก็ตรงที่สิ่งปรากฏ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี้และ
   ถ้าเข้าใจอย่างนี้แล้ว จึงจะถือว่ารู้จักทางไปนิพพาน
  สุดท้าย ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม

 จากคุณ : Vicha [ 16 ธ.ค. 2546 / 13:53:35 น. ]
     [ IP Address : 202.133.166.236 ]


 ความคิดเห็นที่ 53 : (เดฟ)

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนคับ

 จากคุณ : เดฟ [ 16 ธ.ค. 2546 / 15:48:40 น. ]
     [ IP Address : 10.11.9.123 ]


 ความคิดเห็นที่ 54 : (ศิริพร)

          สงสัยคำ 2 คำว่าแตกต่างอย่างไร  ส่งผลอย่างไรคะ ยังไม่ชัดค่ะ
            ละ...คือ  ปล่อยออก   วาง     หรือเปล่าคะ
            หยุด... คือไม่ทำ  ไม่สร้างอีก  ใช่ไหมคะ   ขอเรียนถามค่ะ.

 จากคุณ : ศิริพร [ 16 ธ.ค. 2546 / 21:34:51 น. ]
     [ IP Address : 203.113.57.105 ]


 ความคิดเห็นที่ 55 : (วิรัช)

ขอให้หายเร็วๆนะครับ

 จากคุณ : วิรัช [ 16 ธ.ค. 2546 / 21:47:11 น. ]
     [ IP Address : 202.129.16.8 ]


 ความคิดเห็นที่ 56 : (D.)

เหลือเชื่อ แต่ก็เชื่อว่าจริงแน่นอน เป็นแรงหนุนในการเรียนรู้ในธรรมให้มากยิ่งขึ้นไปอีก ขอให้พ้นเคราะห์กรรมครับ

 จากคุณ : D. [ 17 ธ.ค. 2546 / 00:06:48 น. ]
     [ IP Address : 203.145.30.69 ]


 ความคิดเห็นที่ 57 : (กาลามะชน)

ไปต่างเมืองหลายวัน เพิ่งจะกลับมา ขอให้กำลังใจด้วยคนครับ

 จากคุณ : กาลามะชน [ 17 ธ.ค. 2546 / 09:40:45 น. ]
     [ IP Address : 203.155.120.31 ]


 ความคิดเห็นที่ 58 : (โชติปาละ)

       สิ่งที่ท่านวิชชาเล่ามานั้น ผู้ใดที่ไม่เคยพบเห็น ย่อมยากแก้การที่จะเชื่อ แต่ผู้ที่เคยพบเห็นแล้ว ย่อมรู้ว่ามีจริงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ย่อมมีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า เชื่อในญาน ในพระปัญญาธิคุณของพระองค์มากยิ่งขึ้น
       
        สาธุครับ ในความเห็นที่ ๕๒ ของท่านวิชชาครับ กล่าวได้ดีแล้ว

         กรรมดีที่ภรรยาของท่านวิชชาทำนั้นตัดรอนวิบากกรรมไม่ดีเอง ไม่ว่าผมจะกล่าวคำขอให้หายหรือไม่ ก็หายเองได้
         ขอให้เจริญในธรรมทั้งสองท่านครับ

 จากคุณ : โชติปาละ [ 17 ธ.ค. 2546 / 09:57:27 น. ]
     [ IP Address : 203.113.37.13 ]


 ความคิดเห็นที่ 59 : (Vicha)

ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจให้นะครับ

ตอบคุณศิริพร
ครับถูกต้อง ตามที่คุณเข้าใจ แต่ปมของปัญหาอยู่ที่ ละกิเลส หยุดกิเลส กับละกรรม หยุดกรรม อย่างใหนกันจึงเป็นการละ การหยุดที่ถูกต้อง
และทำไมจึงต้องฝึกสติให้เป็นปัจจุบัน ?
และสตินั้นฝึกเพื่อเท่าทัน กรรม หรือเท่าทันกิเลส ?
หวังว่าคุณ ศิริพร คงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วนะครับ

 จากคุณ : Vicha [ 17 ธ.ค. 2546 / 13:32:51 น. ]
     [ IP Address : 203.118.85.25 ]


 ความคิดเห็นที่ 60 : (ศิริพร)

        ขอบคุณค่ะ  แต่ยังต้องศึกษาอีกมากเลยค่ะ  ขอให้ภรรยาคุณหายเป็นปกติ
โดยเร็วนะคะ  สวัสดีค่ะ ขอธรรมะที่คุณและภรรยาปฏิบัติและเพื่อนๆสมาชิกส่งกำลังใจไปให้จงน้อมนำให้คุณและครอบครัวพ้นวิบากกรรมในครั้งนี้ไปด้วยดีนะคะ
ขอให้ปลอดภัยมีสุขภาพกายที่แข็งแรง  มีสุขภาพจิตที่ดีนะคะ ขออนุโมทนาค่ะ

 จากคุณ : ศิริพร [ 17 ธ.ค. 2546 / 17:46:17 น. ]
     [ IP Address : 203.113.57.100 ]


 ความคิดเห็นที่ 61 : (คนไกลวัด)

"เราไม่สามารถหยุดกรรมที่ส่งผลได้ เช่นเดียวกันเราไม่สามารถหยุดสิ่งแวดล้อมที่ปรากฏกับเรา ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจได้ แต่เราสามารถฝึกสร้างสติ สมาธิปัญญา เพื่อลด เพื่อละ เพื่อวาง เพื่อดับกิเลส  ที่จะบังเกิดขึ้นหรือที่กำลังเกิดขึ้น กับสิ่งที่กระทบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้ "

แจ่มแจ้งแล้วค่ะ  สาธุค่ะ _/|\_

 จากคุณ : คนไกลวัด [ 17 ธ.ค. 2546 / 21:17:50 น. ]
     [ IP Address : 12.75.85.249 ]


 ความคิดเห็นที่ 62 : (กล้วยป่า)

แจ่มแจ้ง และอุ่นใจจริงค่ะ กับธรรมะของคุณวิชา ^_^

เพิ่งจะเมื่อวานนี้เอง..ที่ทุกกรรมเก่าระลอกหนึ่ง เล่นงานอย่างชัดเจนอย่างที่ไม่มีเรียกว่า "บังเอิญ" เด็ดขาด..คือทำธุระอย่างหนึ่ง แต่ถูกปิดกั้น ดักหน้า ดักหลังเอาไว้ทุกทาง..แต่ก็มีเหตุให้เราต้องดิ้นรนทำอยู่อย่างนั้น ไม่ทำก็ไม่ได้ เหมือนกับทุกกลั่นแกล้งเล่นงานจากสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นความลำบากยุ่งยากอย่างยิ่งเหมือนกับถูกปั่นหัวเล่น....ผลที่สุดของการที่ใช้แรงกายใจดิ้นรนเพื่อการนี้..ดิฉันรู้สึกหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมค่ะ เหนื่อยมากๆ จนเหมือนจะเดินไม่ไหวแล้ว!

ในจุดที่สุดของความเหนื่อยมากนั้น! อยู่ๆก็เกิดความรู้สึกผุดขึ้นมาว่า..ในกาลก่อนเราต้องเคยทำกรรมชนิดที่ปิดทางคนอื่น ไม่ให้เจริญก้าวหน้าเป็นแน่แท้..เป็นการสร้างความยากลำบากให้กับผู้อื่นอย่างมากๆ..เราถึงต้องมายุ่งยากลำบากเช่นเวลานี้...ความรู้สึกคับแค้นใจเวลานั้นย่อมมีอยู่...แต่แล้วก็มีความรู้สึกอีกอันผุดขึ้นมาอีกว่า.."เราต้องอดทน อดทนจนถึงที่สุดนะ" "อย่าถือโกรธใคร แม้แต่เจ้ากรรมนายเวรเป็นอันขาด" "จงยอมรับเพราะเป็นสิ่งที่เราเคยทำเขาไว้ แม้จะไม่ใช่เพราะเหตุในชาตินี้ก็ตาม" "ขอให้ทุกอย่างเป็นอโหสิกรรม" เมื่อคำว่า "อโหสิกรรม" ผุดขึ้นมา ความคับแค้นใจที่เริ่มคุๆบ้างแล้วก็ค่อยๆ เจือจางลง...จนถึงเวลานี้ก็ไม่ถึงกับเสียใจมากนัก หรือตีโพยตีพายอะไร..และรวบรวมกำลังใจว่า "เราต้องทำดีต่อไป เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเจริญขึ้นในธรรม..แม้ว่าจะต้องผจญกับกรรมเก่าที่มองไม่เห็นมากมายแค่ไหนก็ตาม..เราจะอดทนจนถึงที่สุด"

เล่าสู่กันฟังเฉยๆค่ะ ^_^ ..ก็ดีใจด้วยนะคะที่ภรรยาคุณวิชาดีขึ้นแล้ว ขอให้หายไวๆ และขออนุโมทนาในการบำเพ็ญบารมีของคุณทั้งสองคนค่ะ

คุณวิชาคะ? ช่วยกรุณาโชว์เว็บไซด์ส่วนตัวของคุณวิชาให้อีกทีได้มั๊ยคะ?..ดิฉันจะ memo เอาไว้นะค่ะ..ขอบคุณมากค่ะ

 จากคุณ : กล้วยป่า [ 19 ธ.ค. 2546 / 22:11:13 น. ]
     [ IP Address : 158.108.12.247 ]


 ความคิดเห็นที่ 63 : (Vicha)

ประโยคนี้เตือนใจได้ดีครับ สำหรับท่านที่มีกรรมเก่าที่เป็นอกุศลกรรมส่งผลอยู่
"เราต้องทำดีต่อไป เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเจริญขึ้นในธรรม..แม้ว่าจะต้องผจญกับกรรมเก่าที่มองไม่เห็นมากมายแค่ไหนก็ตาม..เราจะอดทนจนถึงที่สุด"

  

 จากคุณ : Vicha [ 22 ธ.ค. 2546 / 14:35:02 น. ]
     [ IP Address : 202.133.168.149 ]




จบกระทู้บริบูรณ์



Click Here!