คิดเอาเองนะครับว่าคนที่ไม่ยอมตอบกระทู้ที่คุณหนูหนุ่มหนวดพูดถึงก็คือผมเอง
ก็ขอตอบดังนี้ครับ
* เราควรสั่งสอนเด็กให้รู้จักบาปบุญคุณโทษมากกว่านี้ดีไหม?
ชี้ให้เห็นโทษภัยจากเนื้อสัตว์ ชี้ให้เห็นว่าเนื้อสัตว์ได้มาจากการ "ฆ่า"
สัตว์โดยเจตนา
- เราควรสอนให้เด็กรู้จักบาปบุญครับ ควรชี้ให้เห็นโทษภัยที่มีต่อสุขภาพของเนื้อสัตว์(แต่เด็กเป็นวัยที่ต้องการโปรตีนมาก
โปรตีนจากพืชอย่างเดียวอาจจะไม่พอครับ) ส่วนสัตว์นั้นมีทั้งถูกฆ่าและตายเอง
ไม่ได้มีแต่ถูกฆ่าอย่างเดียว และแม้เนื้อสัตว์นั้นถูกฆ่ามาจริง เราก็ไม่ได้เป็นผู้สั่งให้ฆ่า
เราไม่รู้ว่าเขาฆ่าเจาะจงเรา พูดง่ายๆคือเราไม่ได้มีเจตนาฆ่าให้สัตว์นั้นตาย
เพราะฉนั้นเราไม่ต้องปาณาติปาตาครับ อ้างอิงพุทธพจน์ "เจตนาเป็นตัวกรรม" การกระทำใดๆต้องมีเจตนา
* เราควรนำข้อดีของมหายาน หรือสายอื่นๆ มาประยุกต์ใช้กับเราดีไหม
-เรื่องนี้ผมเห็นตรงข้ามครับ ผมเห็นว่าเถรวาทเรามีข้อดีพออยู่แล้ว
เท่าที่คุณหนูหนุ่มหนวดพูดมา ยกเว้นข้อไม่กินเนื้อสัตว์ไว้ข้อเดียว นอกนั้นเถรวาทเรามีดีพออยู่แล้วครับ
ส่วนข้อไม่กินเนื้อสัตว์ก็ถือว่าเป็นการแยกกันระหว่างเถรวาทกับมหายาน(สายนึงเพราะมหายานมีตั้งหลายสาย)ก็แล้วกันครับ
แม้แต่เรื่องข้อดีของสันติอโศกที่คุณยกมา ทางเถรวาทเราก็สอนกันครับ เรามีดีอยู่แล้วแน่นอน
เพียงแต่เราจะเห็นดีของตัวเราหรือเปล่าเท่านั้นเอง
* ผมถามตั้งแต่ปีมะโว้แล้วว่า การถวายลาบดิบกับพระ
เข้าข่ายผิดวินัยหรือไม่
เพราะดูเหมือนว่าพระจะไม่รับเนื้อดิบ นี่ยังไม่ได้คำตอบจนบัดนี้.....
-ข้อนี้ต้องขออภัยคุณหนูหนุ่มหนวดด้วยครับ ที่ผมไม่ได้เปิดพระวินัยปิฏกมาตอบ
คำตอบที่ต้องการอยู่ในพระวินัยครับ ผมไม่แน่ใจว่ามีบัญญัติหรือเปล่า เลยไม่กล้าตอบครับ
* ผมเสนอว่า ใครที่มีโอกาสไปอินเดียหรือลังกา ช่วยไปดูหลักฐานที่เขาแสดงไว้หน่อยว่าตกลงพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์สมัยพุทธกาลเสพเนื้อสัตว์หรือไม่
-ข้อนี้คุณพุทธศาสนิกชน และคุณวิชาช่วยหาพระสูตรมายืนยันแล้วนะครับ
ว่าแม้แต่ตัวพระผู้มีพระภาคเองยังรับบิณฑบาตที่เป็นเนื้อสัตว์ครับ หากคุณหนูหนุ่มหนวดอยากทราบเนื้อความในพระสูตร
ก็ลองหาเอาได้ครับ ทางลานธรรมฯเตรียมพระไตรปิฏกไว้ให้ค้นแล้วครับ
* ผมเสนอว่า ควรจะช่วยกันแก้ความเข้าใจผิดของชาวบ้าน
ที่มักเข้าใจว่าพระไม่มีสิทธิ์เลือกเสพบิณฑบาตให้ถูกต้อง
-ผมเข้าใจว่าหากชาวบ้านไม่ได้ให้บิณฑบาตด้วยความเคารพ
พระมีสิทธิปฏิเสธไม่รับบาตรครับ แต่หากชาวบ้านให้ด้วยความเคารพ พระในฐานะที่เป็นนาบุญก็ไม่ควรปฏิเสธครับ
ตรงนี้เป็นความเข้าใจของผมครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าที่ถูกต้องตรงพระวินัยเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องหลักการเสพที่คุณหนูหนุ่มหนวดอ้างมา การเสพเนื้อสัตว์อาจทำให้กุศลธรรมเสื่อมนั้น
ผมเห็นว่าเป็นเรื่องเฉพาะคนครับ บางคนเสพเนื้อสัตว์กุศลธรรมอาจจะไม่เสื่อมก็ได
เรื่องของปัจเจกบุคคลก็คงต้องประยุกต์ใช้หลักการที่พระศาสดาประทานไว้ให้ดีครับ
ผมเห็นด้วยนะครับที่คุณหนูหนุ่มหนวดกล่าวว่าจะงดการสนทนาที่ประกอบด้วยโทสะ
นี่ล่ะครับที่คุณหนูหนุ่มหนวดใช้หลักการเรื่อง สิ่งที่เสพแล้วกุศลธรรมเสื่อมไม่ควรเสพ
ผมเองก็ยังเว้นวรรคกระทู้ที่แล้วไป แต่ที่กลับมาตอบกระทู้นี้เพราะพอจะควบคุมไหวแล้วครับ
ส่วนกระทู้อื่นที่เสพแล้วกุศลธรรมเจริญก็คงไม่มีใครกล้าห้ามคุณหนูหนุ่มหนวดหรอกครับ
คิดว่าในลานธรรมฯมีกระทู้มาก คงไม่ใช่ทุกกระทู้ที่จะทำให้กุศลธรรมเสื่อมครับ
ผมกราบขออภัยคุณหนูหนุ่มหนวดด้วยนะครับ หากการตอบกระทู้ของผมจะกระทบกระทั่งจนทำให้คุณหนูหนุ่มหนวดไม่พอใจไปบ้าง
แต่ก็ขอให้ไม่พอใจผมคนเดียวเถอะครับ อย่าให้ถึงกับเป็นลานธรรมฯโดยรวมเลย เพราะผมไม่ใช่ลานธรรมครับ
แล้วผมก็ขออโหสิกรรมไว้ในที่นี้ด้วยครับ