สนทนากับพระเรื่องสร้างบุญบารมี และความเข้าใจเล็กๆ                                             กลับหน้าแรก 
 
 
 
 เนื้อความ : 
        ผมได้สนทนากับพระ เรื่องการสร้างบุญบารมี เห็นว่าท่านตอบได้ดีจึงเอามาให้อ่าน 
>>>     ข้าพเจ้าได้ถามพระคุณท่านว่า 
"ในปัจจุบันหรืออนาคตเมื่อไม่รู้ตัวเองว่าสร้างบารมี จะมีสิ่งใดเป็นตัวชี้แนะให้สร้างบารมีเพิ่มขึ้นมา " 
            พระคุณท่านตอบว่า 
"ปัญญาเป็นตัวบอกให้รู้สิ่งใดควรหรือไม่ควร แล้วมีความศรัทธาในการสร้างคุณงามความดี จึงกล่าวได้ว่า 
ปัญญาและศรัทธา เป็นตัวนำในการสร้างบารมีของผู้สร้างบารมีทั้งหลาย" 
            ข้าพเจ้าถามพระคุณท่านต่ออีกว่า 
"แล้วปัญญาและศรัทธาจะเกิดขึ้นได้อย่างไร" 
        พระคุณท่านตอบว่า 
"เพราะวาสนาของการสั่งสมปัญญาและศรัทธามาตลอด จึงทำให้บังเกิดปัญญาและศรัทธา 
ในการสร้างความดีต่อและสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ" 

           ผม เอาความเข้าใจของตนเองเล็กๆ มาฝาก 
>>>            เมื่อวานนี้มนุษย์แต่ละคนมีฐานะความสุขหรือความทุกข์ไม่เสมอกัน 
     ณ.วันนี้มนุษย์แต่ละคนมีฐานะความสุขหรือความทุกข์ก็ไม่เสมอกัน 
     เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพรุ่งนี้มนุษย์แต่ละคนมีฐานะความสุขหรือความทุกข์ไม่เสมอกัน 
     ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการกระทำที่สะสมที่ส่งผลของมนุษย์ผู้นั้นเอง 
>>>          ความรู้สึกในความสุขหรือความทุกข์ของเราเมื่อวานนั้นได้หายไป   แต่กรรมก็ได้ทำไปแล้ว 
      ความรู้สึกในความสุขหรือความทุกข์ของเราในวันนี้ก็สืบเนื่องมาจากเมื่อวาน แล้วได้ทำกรรมใหม่ 
     ความรู้สึกในความสุขหรือความทุกข์ของเราในวันพรุ่งนี้ก็เป็นผลของกรรมเก่าและกรรมใหม่ 
               ทั้งหมดเป็นอยู่อย่างนี้มานานแสนนานแล้ว แต่จำได้เฉพาะปัจจุบัน และจะเป็นอย่างนี้ไปอีกใน 
     อนาคตอีกนานแสนนาน ถ้าขาดปัญญา 

>>>    ความศรัทธาความเชื่ออันไม่ถูกต้อง ย่อมนำมาซึ่งความสับสน เมื่อยึดมั่นมากก็จะกลายเป็นความหลง  
เมื่อมีทิฐิไม่ย่อมปล่อยวางก็จะกลายเป็นความทุกข์ในที่สุด 
>>>     ความศรัทธาความเชื่อในสิ่งที่ถูกต้องเป็นจริง ย่อมนำมาซึ่งสติปัญญา ย่อมคลายความยึดมั่นถือมั่น 
ย่อมละวางเสียซึ่งทิฐิมานะ แม้ความสุขหรือความทุกข์ก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา   เมื่อถึงที่สุดก็คือความสงบ 
ของตนเอง และให้ความสงบสุขแก่ผู้ที่อยู่ใกล้ 
            จึงต้องพิจารณาใคร่ครวญให้ดีเสียก่อนที่จะเชื่อ เป็นการดีที่สุด  แม้แต่สิ่งที่เชื่ออยู่ก็ให้พิจารณา 
ด้วยเหตุและผลว่าถูกต้องหรือไม่ ความเชื่อนั้นก็จะไม่ทำให้ต้องให้ผิดพลาดหรือทุกข์ในภายหลัง 

           ไม่รู้ว่าจะโดนใจ หรือโดนตำหนิจากผู้อ่านหรือเปล่า กลัวอยู่เหมือนกัน

 จากคุณ : Vicha [ 29 พ.ย. 2543 / 21:47:41 น. ]  
     [ IP Address : 203.151.36.3 ] 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 1 : (listener) 
สาธุ ขอบคุณครับ
 จากคุณ : listener [ 29 พ.ย. 2543 / 21:49:32 น. ]  
     [ IP Address : 202.183.197.9 ] 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 2 : (IQ0) 
อย่าลืมอธิษฐานบารมีครับ 
            บารมีข้อนี้ เน้นเรื่องการกระทำที่ใจเป็นสำคัญ มีใจมุ่งตรงตามที่ต้องการ คนธรรมดาทั่วไปกระทำสิ่งใด ก็มีความมุ่งหมายไปตามที่ตนเองชอบ ส่วนที่จะชอบหรือพอใจเรื่องอะไร แค่ไหน ย่อมขึ้นอยู่กับระดับสติปัญญาของแต่ละคนไป ใครมีปัญญาน้อย ก็ตั้งความมุ่งหมายง่ายๆ เอาเฉพาะหน้า ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เช่น พอจะตักบาตรก็อธิษฐาน เพียงเพื่อให้วนอยู่ในวัฏฏะ การอธิษฐานที่มีปัญญา ต้องให้ความดีต่างๆ ที่ตนกระทำเป็นเครื่องสนับสนุนให้ออกพ้น จากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นระดับโลกุตระ ไม่ใช่ระดับโลกียะ ที่กล่าวถึงอย่างแรก 
              การอธิษฐาน ก็เหมือนการตอกย้ำ เราจะทำสิ่งใดให้มั่นคง เช่นตอกตะปูหรือเสาเข็ม ก็ตอกซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งตอกมากเท่าไหร่ สิ่งนั้นก็แน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น คำอธิษฐานก็เช่นเดียวกัน กระทำซ้ำไว้เรื่อยๆ วันหนึ่งในอนาคตเมื่อบุญเต็มเปี่ยมแล้ว สิ่งที่ได้รับก็จะเป็นตามที่อธิษฐานไว้ 
              เหมือนการเดินทางต้องมีเข็มทิศ เรือต้องมีหางเสือ ตั้งเข็มทิศหรือทางเลือกมุ่งไปสู่ทิศทางที่ต้องการ ในทุกครั้งที่เดินทาง วันหนึ่งภายหน้าย่อมทำให้ถึงที่หมาย 
              คนที่ทำสิ่งใดไม่อธิษฐาน เหมือนเรือไม่มีหางเสือ คนเดินทางที่ไม่รู้ทิศทาง เดินไปย่อมเสี่ยง ต่อการเฉไฉออกนอกเส้นทาง ตกหลุมตกบ่อ รับอันตรายในที่สุด 
              เรื่องการทำความดีสิ่งใดแล้วไม่อธิษฐานกำกับ เหมือนหาเงินได้มาแล้ว ใช้ไม่เป็นเหมือนกับอ่านหนังสือออก แต่ไม่รู้จักเลือกหนังสือมาอ่าน ในที่สุดสิ่งที่ได้มา ไม่ทำประโยชน์อะไรให้เกิดขึ้น บางทีทำโทษให้เกิดด้วยซ้ำ 
              เช่นบางคนทำทานไว้มาก แต่ไม่ได้อธิฐานกำกับไว้ว่า เมื่อเกิดชาติหน้าอานิสงส์ทานให้ผล เกิดเป็นคนร่ำรวยมหาศาล แทนที่จะใช้ทรัพย์นั้น ทำสิ่งใดให้เป็นกุศลเพิ่มเติม กลับนึกไม่ได้เพราะไม่มีอานิสงส์จากการอธิษฐาน เลยเอาความร่ำรวยนั้นมาทำให้เกิดบาป เช่นสร้างสถานเริงรมย์ ให้คนหลงไหลอยู่ในกาม สร้างบ่อนอบายมุข ผลิตเครื่องดองของเมา ยาเสพติด แม้กระทั่งไม่ถูกใจใคร ก็ใช้อำนาจเงินทำปาณาติบาตเบียดเบียน ถูกใจใคร ก็ทำเรื่องกาเมสุมิจฉาจาร ดังนี้เป็นต้น 
              หรือบางคนถือศีล เกิดขาติใหม่กลายเป็นคนสวย ไม่มีคำอธิฐานตามรักษา สวยแล้วก็มีคนมาชอบหลายคน คนสวยเลยหลายใจ กลายเป็นกรรมกาเมสุมิจฉาจารขึ้นมา 
               ทำบุญกุศลใดๆ ต้อง "อธิษฐานล้อมคอก" เอาไว้ว่า "ขอให้เราทำแต่ความดีถ่ายเดียว ให้บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนกว่าจะเข้าพระนิพพาน" เมื่ออธิษฐานอย่างนี้ เราก็จะไม่พลาดพลั้ง ถอยหลังทำบาปให้ขาดทุนในยามเวียนว่ายตายเกิด เพื่อสะสมสร้างบารมี ก็จะได้เกิดแต่ภพภูมิที่ดี มีโอกาสสร้างแต่บารมี รุดหน้าไปอย่างเดียว 
 จากคุณ : IQ0 [ 29 พ.ย. 2543 / 21:56:20 น. ]  
     [ IP Address : 199.41.248.135 ] 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 3 : (A) 
ขอเสริมคุณ  IQO นิดนึงคำอธิฐานนั้นถ้าเราจะพูดถึงแล้วก็เป็นการแลกเปลี่ยนคืออธิฐานขอว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้หรืออยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ถ้าอธิฐานแล้วจะกลายเป็นสัญญาแล้วทำให้เกิดชาติเกิดความยึดมั่นถือมั่นซึ่งเป็นกิเลสอย่างหนึ่งซึ่งทำให้ไปไม่ถึงพระนิพพานได้  ซึ่งในหนังสือประวัติท่านหลวงปู่มั่น    ท่านหลวงปู่มั่นยังเคยอธิฐานในชาติก่อนๆว่าขอให้บรรลุนิพพานเลยทำให้หลวงปู่ไม่บรรลุเสียทีแต่ตอนหลังหลวงปู่ได้ทราบว่าเคยอธิฐานก็เลยละคำอธิฐานนั้น    ตามหลักแนวทางขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นตรัสไว้ว่า  สังขาร   วิญญาน   เวทนา  สัญญา   เป็นอนัตตาคือการไม่มีตัวตน ให้ละวาง  แต่ถ้าเรายึดมั่นให้มันมีตัวตนขึ้นมาแล้วมันก็เกิดทุกข์และก็ไม่หลุดพ้น แต่ถ้าเราอธิฐานก็อธิฐานแบบไม่ยึดมั่นเช่น   ขอให้บุญกุศลนี้ส่งเสริมให้เข้าใจธรรมะมากยิ่งขึ้น เป็นต้น    ส่วนตัวผมก็พยายามพิจารณาเพื่อละวาง สังขาร   วิญญาน   เวทนา  สัญญา อยู่แต่ยังไปไม่ถึงไหนเลยแต่ก็จะพยายามเต็มที่
 จากคุณ : A [ 30 พ.ย. 2543 / 10:43:02 น. ]  
     [ IP Address : 203.151.127.112 ] 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 4 : (สัจจธรรมภิกขุ) 
_/|\_ สาธุ
 จากคุณ : สัจจธรรมภิกขุ [ 30 พ.ย. 2543 / 13:45:21 น. ]  
     [ IP Address : 202.44.32.206 ] 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 5 : (กอบ) 
สาธุครับ
 จากคุณ : กอบ [ 1 ธ.ค. 2543 / 13:02:20 น. ]  
     [ IP Address : 132.147.24.67 ] 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 6 : (เพียงธุลี) 
ถ้าผมจำไม่ผิดสิ่งที่พระอาจารย์มั่นท่านต้องละอธิษฐานนั้นเกี่ยวกับเรื่องการปารถนาพุทธภูมิไม่ใช่หรือครับ ไม่ใช่การละเรื่องขอให้บรรลุพระนิพพาน  :-\ 
ถ้าผมจำผิดก็ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยชี้แจง และขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย _/|\_
 จากคุณ : เพียงธุลี [ 1 ธ.ค. 2543 / 18:37:06 น. ]  
     [ IP Address : 161.1.16.12 ] 
 
 
 ความคิดเห็นที่ 7 : (ดังตฤณ) 
อ่านมาได้เนื้อความเหมือนคุณเพียงธุลีครับ
 จากคุณ : ดังตฤณ [ 1 ธ.ค. 2543 / 21:53:31 น. ]  
     [ IP Address : 203.155.239.120 ] 
 
 


                                                                                                          กลับหน้าแรก